วิทยากรโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา
ติว PAT1 ระดับชั้น ม.6
บันทึกช่วยจำ (วันแรก)
กับ 2 วันที่ถือว่าเป็นเกียรติที่สุดในชีวิต
เมื่อกลางเทอมที่แล้ว (เทอม 1 ปีการศึกษา 2561) หนึ่งในน้องคณะกรรมการสายชั้น ม.6 โทรเข้ามาเบอร์โทรภรรยาผมโดยบอกว่า
"จะให้พี่ก้อมาติว ม.6 ที่มหาฯ สรุปเนื้อหาเตรียมสอบเข้ามหาลัย"
ผมฟังแล้ว ผมบอกน้องไปว่า
"เอาจริงรึ" (แต่ยินดีมากๆ 55555)
หลังจากคุยกันวันนั้น ระหว่างน้องไปดำเนินเรื่อง ผมก็ย้ำกับน้องอีกว่า
"ถามเพื่อน ๆ ด้วยนะว่าจะให้พี่ไปไหม
ถ้าเรื่องไม่ผ่าน หรือมีใครไม่เห็นด้วย เรื่องให้พี่ไปสอน บอกพี่ได้ตลอดเลยไม่ต้องเกรงใจ พี่ยินดีเสมอ"
น้องโทรมาหาผมอีกทีคือก่อนเปิดเทอม 2 คอนเฟิร์มว่าให้ผมเตรียมเอกสารได้เลย
ความกดดัน ความตื่นเต้น ก็เกิดขึ้นตั้งแต่วางสายจากน้องในทันที 5555
----
สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากนั้นคือ
ถามน้องคนหนึ่งที่จบไปแล้ว (ตอนนี้น้องเรียนปี 1) ว่าปีที่แล้วที่เขาติวกัน เขาใช้เขียนกระดาษหรือใช้คอม หรือใช้ไอแพด
คำตอบที่ได้คือ
"หนูแนะนำ อย่าไปใช้กระดาษกับเครื่องฉายเลย มันมองไม่ชัด มันไม่เฟี้ยวเลย"
อีก 2 วันต่อมา ผมเลยไปจัด surface มาเลย! ทั้ง ๆ ที่ใช้งานอะไรไม่เป็นเลย 555
---
ประมาณ 1 สัปดาห์และใกล้ ๆ ก่อนไปติววันแรก ในช่วงที่ผมเครียดกับการเตรียมเอกสาร
ผมส่งข้อความบอกคุณครูผู้ใหญ่ของผมบางท่านว่า
"ก้อตื่นเต้นจังนิครู 5555"
ครูผมแทบทุกท่านช่วยลดความกังวล และช่วยให้ผมมีกำลังใจขึ้นได้เยอะมากครับ...
"กลับไปตอบแทนคุณแผ่นดิน เหมือนกลับไปบ้าน เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งที่ยืนเท่านั้น"
"เด็กรู้น้อยกว่าเรา จะไปกลัวอะไร" (ดุเดือด 5555)
"ให้สนุกกับการสอนนะ และประสบความสำเร็จด้วย"
"555..เป็นครูก้อ ตื่นเต้นด้วยเหรอ"
(ถ้าไม่ใช่ มหาฯ ก้อไม่ตื่นเต้นเลยครับ...ผมตอบครู)
ไม่ใช่แค่กำลังใจ ครูของผมบางท่านถึงขั้นติวผมผ่านไลน์หรือโทรมาติวผมเองเลย ก่อนผมจะไปติวให้น้องด้วย 555
มีท่านหนึ่งผมขอมุกครูไปเล่นกับเด็ก ๆ สักมุกครับ ...
"ไม่มี!" 555
-----
2 วันก่อนสอน คืนวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย. หลังสอนที่บ้านเสร็จ ผมเข้าไปที่ รร. มหาฯ เวลาเกือบ 2 ทุ่ม บอกพี่ยามข้างหน้าว่าขอมาไหวสมเด็จพ่อครับ
ไป 2 มือเปล่าๆ ไม่มีธูป เทียน หรือดอกไม้ใดๆ เดินเข้าไปมืดๆ ยกมือไหว้ พนมมืออธิษฐาน
"ขอให้ก้อได้กลับมาตอบแทนบุญคุณโรงเรียนแห่งนี้ใน 2 วันนี้ ได้อย่างราบลื่น ไม่มีอะไรติดขัด และทำให้ทุกคนมีความสุข"
----
คืนก่อนไปสอน...
ผมส่งข้อความหาครูผมท่านหนึ่งบอกครูว่า
"ก้ออยากไหว้ครู ก่อนเริ่มสอนพรุ่งนี้ครับ"
"ได้ค่ะก้อ ต้องเจิมและเสกคาถาด้วยมั้ย 555"
----
ส่วนคุณแม่ผมหรอ ท่านบอกแค่ว่า ...
“แต่งตัวให้หล่อใส่สูตร นอนพักให้เต็มที่ เอาน้ำใส่ขวดไปกินระหว่างสอน”
ซึ่งประเด็นหลักจริง ๆ ของแม่แค่ข้อความแรก 5555
-----
เช้าวันแรก ผมไปถึงหอประชุม ได้ไหว้ครูผมก่อนเข้าหอประชุมตามที่ตั้งใจไว้
พอขึ้นไปหอประชุม สิ่งแรกที่ผมเดินมุ่งไปหาคือโต๊ะที่นั่งสอน เพื่อจะดูว่ามีสายสัญญาณที่มันพ่วงเปิดกับ surface ได้ไหม ปรากฎว่า ... ยังไม่มี
แต่พอผมหันไปเห็น "พี่เก่ง" พี่เจ้าหน้าที่ที่รอบรู้ทุกอย่างเรื่องสายสัญญาณ ผมก็อุ่นใจมากขึ้น
"เดี๋ยวผมไปหามาให้ ไม่ต้องกังวล"
พี่เก่งหายไปพักหนึ่ง และหามาให้ได้จริง ๆ หามาให้ 2 อันด้วย เพราะเผื่อมันใช้ไม่ได้ 5555
(ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่เก่งไปหลายรอบมากในวันนั้น 555)
----
ผมเพิ่งทราบตอนเช้าวันนั้นว่า ผมติวเป็นคนแรกของโครงการ และเพิ่งทราบจากสถานการณ์ในหอประชุมว่าต้องมีการ
"เปิดพิธี" ด้วย!
เอาแล้วไง!
เตรียมตัวแต่มาสอน เตรียมตัวมาคุยกับเด็กๆสนุกๆ ไม่ได้เตรียมตัวว่าต้องมาพูดต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ของโรงเรียนเยอะขนาดนี้
และงานแบบนี้ผมไม่ค่อยถนัดเอาซะด้วย
ผมนั่งร่างข้อความพูดกันบนเวทีเลย!
ภาพหน้าครูสอนวิชาภาษาไทยเมื่อตอนเด็กๆ ลอยเข้ามาในหัวเต็มไปหมด...
จะขึ้นต้นด้วย...
"กราบเรียน" หรือ "กราบสวัสดี" ดี? 5555
แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีระดับหนึ่งนะ 555
-----
เรื่องสอนวันแรก
ผมทำเอกสารมา 43 หน้า พยายามเอาประเด็นสำคัญที่สุด พิมพ์สรุปข้อความให้น้องมากที่สุด เพื่อไม่ต้องใช้เวลาให้น้องจดช๊อตโน๊ทมากเกินไป เพราะเวลาสอนจะไม่ทันเอา และให้น้องไปจดตอนเฉลยโจทย์เอาทีเดียวเลย
ในหัวตอนนั้นมีอย่างเดียวคือ...
สุดท้ายหมดจริงๆ (หมดอย่างดุเดือด 555)
พอสอนเสร็จ น้องประธานสายชั้น ม.6 ขึ้นมาบอกผมว่า
"พี่ก้อสอนได้เยอะมากตั้งแต่มีการติวมา" 5555
-----
หลังจากจบวันแรก....
ผมส่งข้อความถามเด็กๆ และคุณครูผมที่ได้มีโอกาสนั่งฟังผมสอนว่า...
"วันนี้มีอะไรที่พี่ต้องปรับปรุงบ้าง"
เด็ก ๆ เป็นตัวสะท้อนตัวเราได้ดีที่สุดครับ และสำหรับผม พูดได้ บอกได้ตรงๆ ตรงไปตรงมาได้เลยครับ
ผมรับฟังทุกคนที่ผมถามไป และมานั่งคิดวางแผนปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาสำหรับการสอนต่อในวันพุธหน้าอีกสัปดาห์หนึ่ง
"โอเค ยอมแล้ว พุธหน้าอาจต้องตัดบางบทออกไป เนื้อหา 3 ปี คุยได้ไม่ทั้งหมดในเวลา 1 วัน สอนเฉพาะที่ออกสอบเยอะๆก่อน"
ผมเลิกดื้อกับตัวเอง และยอมรับความจริง 555
(จริงๆครูของผมท่านหนึ่ง ท่านเตือนผมแล้วว่า "ครูเข้าใจก้อ เราเป็นครู เราคิดแต่จะสอนให้เด็กได้เยอะๆ แต่ก้อไม่ต้องสอนทั้งหมดก็ได้เพราะมันไม่ทัน" ... แต่ผมดื้อเอง 5555 )
-----
เดี๋ยวมาเขียนบันทึกวันที่ 2 ต่อ
ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ ซึ่งทำให้ช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยของคนไทยทั้งประเทศที่อ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด ขึ้นมาได้นิดนึง... ฮาาาาา!
ขอขอบพระคุณทุกท่านจากหัวใจ
นาย ธิปัตย์ ภักดีเศรษฐกุล
ม.ว. 35811
-----
Math Makes Sense by Tutor Khor
สอนคณิตศาสตร์โดยอดีตนักเรียนทุนโครงการ พสวท. สาขาคณิตศาสตร์ระดับท็อปของภาคใต้
(สอนสด + ออนไลน์)
Tel : 086 – 8826648 , 083 – 6595136
Facebook : Tutor Khor
View the embedded image gallery online at:
https://tutorkhor.com/index.php/activity/item/433-2018-06-28-01-48-53#sigFreeIdc17997b9ef
https://tutorkhor.com/index.php/activity/item/433-2018-06-28-01-48-53#sigFreeIdc17997b9ef